ตีตั๋ว...พาทัวร์ 15 โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน (Major Cineplex Ratchayothin) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1998 เป็นสาขาที่ 3 และเป็น 1 ใน 5 สาขารูปแบบ Standalone ของเครือ Major Group ซึ่งรวมโรงภาพยนตร์ และศูนย์รวมความบันเทิงไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ จนมาถึงปัจจุบัน ครองตำแหน่งโรงภาพยนตร์สาขา Flagship ที่มียอดใช้เป็นบริการสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เฉลี่ย 4-5 พันคนต่อวัน หรือถ้าช่วงพีคๆ ยอดพุ่งทะลุ 10,000 คนต่อวัน
ด้วยทำเลที่ตั้งของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน อยู่บริเวณ “แยกรัชโยธิน” จุดตัดระหว่าง ถ.พหลโยธิน กับ ถ.รัชดาภิเษก ที่มีการขยายตัวสูง จนกลายเป็นทำเลทองของกลุ่มคนที่พักอาศัยในย่านนี้ มีทั้งนักเรียน นักศึกษามหาลัย วัยทำงาน ไปจนถึงโครงการระดับไฮเอนด์ และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
ภายในอาคาร มีทั้งหมด 12 ชั้น ชั้น B1-B2 เป็นที่จอดรถ และสำนักงานศูนย์การค้า
ชั้น 1 ลานจัดกิจกรรม Hollywood Hall ร้านค้า ร้านอาหาร
ชั้น 2 Box Office จุดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ We Fitness ร้านค้า ร้านอาหาร และทางเชื่อม BTS
ชั้น 3 ทางขึ้นโรงภาพยนตร์ จุดจำหน่ายป๊อปคอร์น M Space ร้านค้า ร้านอาหาร
ชั้น 4 บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล
ชั้น 5 โรงภาพยนตร์ที่ 1-10
ชั้น 6 โรงภาพยนตร์ที่ 11-15
ชั้น M, 7, 8, 9 ออฟฟิศ สำนักงาน
ทั้ง 15 โรงภาพยนตร์ มีทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ รวมกว่า 3,500 ที่นั่ง มีเก้าอี้หลากหลายประเภท พร้อมด้วยโรงภาพยนตร์ IMAX จอยักษ์, 4DX, Dolby Atmos, โรงหนังเด็ก Kids Cinema และฉายด้วยระบบ Laser Projector ทุกโรงภาพยนตร์
นอกจากที่นี่จะมีตู้ E-Ticket ไว้ให้บริการซื้อบัตรชมภาพยนตร์มากถึง 16 ตู้ ยังมีบริการจุดจำหน่ายป๊อปคอร์นมากถึง 4 จุด (รวมบูธ Pop Star) และบริการในรูปแบบ Pick up เรียกคิวรับสินค้า ลดความแออัด เพื่อนำร่องและอาจมีขยายไปยังสาขาอื่นๆ ที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ด้วยจำนวนโรงฉายที่ค่อนข้างมาก ทำให้โปรแกรมภาพยนตร์สาขานี้มีความหลากหลาย ทั้งหนังเล็ก หนังใหญ่ เสียงไทย Soundtrack และสามารถจัดรอบฉายได้แบบ 24 ชม. ในช่วงที่มีหนังฟอร์มยักษ์เข้า และยังมีพื้นที่รองรับการจัด Event งานเปิดตัวรอบ Gala กิจกรรมรอบพิเศษ ทั้งภายนอก และภายในโรงภาพยนตร์ได้อีกจำนวนมาก
Cinema 1 โรงปกติ ขนาด 81 ที่นั่ง (Optimus Chair) จอภาพ Scope
*โรง 1 เป็นเก้าอี้ Optimus ทุกที่นั่ง แต่ใช้ราคาประเภท Normal / Optimus บางเรื่องขายเป็นราคา Platinum ทั้งโรง)
Cinema 2 โรงปกติ ขนาด 87 ที่นั่ง (Optimus Chair) จอภาพ Scope
*โรง 1 เป็นเก้าอี้ Optimus ทุกที่นั่ง แต่ใช้ราคาประเภท Normal / Optimus บางเรื่องขายเป็นราคา Platinum ทั้งโรง)
Cinema 3 โรงปกติ (Kids Cinema) ขนาด 128 ที่นั่ง (Normal / Honeymoon / Double Sofa Bed) จอภาพ Scope
*ตั้งแต่ July 2023 : โรงภาพยนตร์ที่ 4,5,6,7,8,9,10,12 ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 4 โรงปกติ ขนาด 165 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 5 โรงปกติ ขนาด 271 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
*ตั้งแต่ July 2023 : โรงภาพยนตร์ที่ 5 ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair และเปลี่ยนเก้าอี้ Normal เป็นเบาะหนังทั้งหมด
Cinema 6 โรงปกติ ขนาด 202 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 7 โรงปกติ ขนาด 253 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 8 โรงปกติ ขนาด 173 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 9 โรงปกติ ขนาด 140 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Flat
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 10 โรงปกติ ขนาด 152 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Flat
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 11 โรง 4DX ขนาด 104 ที่นั่ง (Premium / Privilege) จอภาพ Scope
Cinema 12 โรงปกติ ขนาด 234 ที่นั่ง (Normal / Optimus) จอภาพ Scope
*ภาพก่อน July 2023 ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้ Honeymoon Seat เป็น Optimus Chair
Cinema 13 โรงปกติ ขนาด 687 ที่นั่ง (Normal / First Class / Double Arm Chair / Opera Chair) จอภาพ Scope (ชั้น First Class เป็นเก้าอี้เหมือน Optimus Chair)
Cinema 14 โรงปกติ ขนาด 370 ที่นั่ง (Normal / Optimus Chair) จอภาพ Scope
Cinema 15 โรง IMAX ขนาด 457 ที่นั่ง (Premium / Privilege / Ultimate) จอภาพ 1.43:1 ขนาด ≈ 24x16.7 เมตร ฉายด้วยระบบ IMAX with Laser (CoLa) 4K ระบบเสียง 12 Channel Sound
เพิ่มลำโพง ให้มิติเสียงจากด้านบน และด้านข้าง
เดิมเป็นโรง IMAX แห่งแรกของไทย ที่ฉายในระบบ Film 70mm ในชื่อ Krungthai IMAX Theatre และเปลี่ยนมาเป็น Panasonic IMAX Theatre ก่อนย้ายไปเปิดสาขาพารากอน ในปี 2006 ทำให้โรง IMAX รัชโยธิน ต้องปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อปรับมาฉายเป็นจอปกติ และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในรูปแบบ IMAX Digital เมื่อปี 2010 โดยใช้ Naming Sponsor โดย Krungsri จนมาถึง 15 Aug 2023 ปิดปรับปรุงเปลี่ยนระบบฉายจาก IMAX Digital เป็น IMAX with Laser และเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 Oct 2023
*ภาพก่อนปิดปรับปรุง ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเก้าอี้เป็นเบาะหนังทั้งโรง
มีห้องน้ำให้บริการทั้งชั้น 5 ข้างโรง 5 และ ชั้น 6 ข้างโรง 11
การเดินทางมาดูหนังที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ต้องลำบากรถติดเหมือนสมัยก่อน เพราะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงแล้ว ลงสถานีรัชโยธิน (N11) เดินทางเชื่อมเข้าอาคารศูนย์การค้าได้เลย อีกทั้งที่นี่ยังมีส่วนของ ดิ อเวนิว และตลาดนัด ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งยังมีพื้นที่ Co-Working Spaces เปิดให้ใช้บริการฟรี!! สำหรับนั่งทำงาน นั่งเล่นระหว่างรอดูหนังอีกด้วย